ชีวิตความเป็นอยู่ในสวีเดนในด้านต่าง ๆ

สุขภาพและการรักษาพยาบาลในสวีเดน

สุขภาพและการรักษาพยาบาลในสวีเดน

การดูแลให้ประชาชนมีสุขภาพดีและการรักษาพยาบาลเป็นหน้าที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลและของสภามณฑลเทศบาลรับผิดชอบในการให้บริการ การดูแลรักษาคนชรา ผู้ป่วยระยะยาว คนพิการโดยการจัดสถานที่อยู่อาศัยแบบพิเศษให้ ได้แก่ บ้านพักอาศัยพร้อมการบริการ(servicehus) ส่วนสภามณฑลรับผิดชอบเรื่องการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาล นอกจากนั้นการให้บริการด้านรักษาพยาบาล และการดูแลรักษาก็ยังมีภาคเอกชนที่เข้ามาให้บริการด้วยโดยการเข้ามารับหน้าที่ช่วงต่อมาจากเทศบาล และสภามณฑลหรือเข้ามาบริการเอง

เนื่องจากสวีเดนเป็นประเทศที่มีรัฐสวัสดิการให้กับทุกคน ดังนั้นการไปหาหมอเพื่อขอการรักษาจะฟรีให้กับทุกคน แต่ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายบางอย่างที่เราต้องออกเองแต่ก็ไม่ได้แพงมาก ค่าใช้จ่ายบางอย่างที่เราต้องจ่ายเอง เช่น

  • ค่าใช้จ่ายเมื่อต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล

  • ขอใบรับรองแพทย์

  • ฉีดวัคซีนที่ต้องการเอง เช่น วัคซีนป้องกันเห็บ วัคซีนป้องกันอหิวาตกโรค เป็นต้น

  • รองเท้าพิเศษสำหรับคนที่มีปัญหา

  • พบนักกายภาพบำบัด

  • ยาบางชนิด

  • งานทันตกรรมบางประเภท

เมื่อป่วยในสวีเดน

หากเรารู้สึกว่าเราไม่สบาย ป่วยหรือเกิดการบาดเจ็บที่ร่างกาย สิ่งแรกที่ต้องทำคือการติดต่อไปศูนย์อนามัย (vårdcentralen) ที่มีชื่อของเราลงทะเบียนไว้หรือเราสามารถโทรเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลรักษาตัวเองในเบื้องต้น ให้โทรไปที่ 1177 ที่เบอร์นี้จะมีพยาบาลให้คำปรึกษาและบอกเราว่าต้องทำอะไรบ้าง หากต้องมีการไปหาหมอที่ศูนย์อนามัย (vårdcentralen) พยาบาลก็จะแนะนำให้เราติดต่อศูนย์อนามัยนั้น ๆ

นอกจากจะโทรไปขอคำปรึกษาได้ที่เบอร์ 1177 เรายังสามารถหาข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ของ 1177.se อีกเช่นกัน

 

จะไปหาหมอที่ศูนย์อนามัย (vårdcentralen) เราต้องโทรศัพท์เพื่อขอจองเวลาก่อนเสมอ!

โดยปกติการรับบริการด้านสาธารณสุขจะต้องทำในเขตมณฑลที่ตนอาศัยอยู่ แต่การรับบริการข้ามเขตมณฑลก็สามารถทำได้เช่นกัน

การดูแลขั้นปฐมภูมิหรือการบริการสาธารณสุขเบื้องต้นของแต่ละมณฑลมีศูนย์อนามัย (vårdcentralen) ที่ผู้ใช้บริการสามารถเลือกแพทย์ได้เอง พื่อให้การดูแลรักษาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แพทย์ในลักษณะนี้จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป

เช่น แพทย์ประจำเขต (distriktsläkare) แพทย์ประจำบ้าน (husläkare) หรือแพทย์ประจำครอบครัว (Familjeläkare) โอกาสในการเลือกแพทย์ หรือเลือกโรงพยาบาลเองนั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับกฎของแต่ละสภามณฑล อย่างไรก็ตามการรักษาในกรณีของการป่วยแบบฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุ ผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการในโรงพยาบาลไหนก็ได้ทั่วประเทศโดยจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมคนไข้ในอัตราที่สภามณฑลเขตนั้นได้กำหนดไว้แต่หากผู้ป่วยที่ไม่ได้ป่วยแบบฉุกเฉิน และต้องการไปรับการรักษานอกเขตสภามณฑลของตน โดยไม่ได้มีใบส่งตัวของแพทย์ (remiss) ก็สามารถทำได้ โดยจะต้องจ่ายค่าเดินทาง และค่าธรรมเนียมคนไข้ตามอัตราของสถานพยาบาลแห่งนั้นเอง

เอกสารอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้ารักษาพยาบาล

ข้อมูลนำมาจากหนังสือ “คู่มือคนไทยในสวีเดน” จัดทำโดยสถานเอกอัคราชฑูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม

กรณีเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหรือป่วยร้ายแรงอย่างกระทันหัน เช่น หัวใจวาย กระดูกหัก หรือหายใจไม่ออกอย่างฉับพลัน ให้โทรศัพท์ไปที่ 112 หรือเดินทางไปที่แผนกฉุกเฉิน (akutmottagning) ที่โรงพยาบาล

การป่วยฉุกเฉินแบบไม่ร้ายแรงให้ติดต่อศูนย์อนามัย (vårdcentral) หรือพยาบาลประจำเขต (distriktssköterska) ถ้าเป็นเวลากลางคืนก็จะมีศูนย์แพทย์เวร (jourcentral) ไว้คอยให้บริการ สภามณฑลส่วนใหญ่จะมีพยาบาลเวร (jour- sköterska) และศูนย์ข้อมูล การรักษาพยาบาล (sjukvårdsupplysning) ที่สามารถโทรติดต่อได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้จากสมุดโทรศัพท์หรือติดต่อสภามณฑลที่ตนพักอาศัยอยู่
โดยตรง

ข้อมูลนำมาจากหนังสือ “คู่มือคนไทยในสวีเดน” จัดทำโดยสถานเอกอัคราชฑูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม

เมื่อมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นต้องแจ้งตำรวจโดยเร็วที่สุด ผู้แจ้งอาจจะเป็นผู้ที่ถูกทำร้ายเอง พยาน หรือผู้ใดก็ได้ที่ทราบเรื่อง ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกาย ควรไปหาแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยทันทีและขอให้แพทย์ทำบันทึกบาดแผลไว้ด้วย หลักฐานสำคัญคือ ใบรับรองแพทย์ แม้ว่าจะไม่ได้มีการรับรักษาก็ตาม

การแจ้งความต่อตำรวจ สามารถทำได้ทางโทรศัพท์ หรือไปแจ้งด้วยตนเอง ถ้าผู้ถูกทำร้ายไม่สามารถแจ้งความได้เอง ก็สามารถขอให้ผู้อื่นแจ้งแทนได้ การแจ้งความสามารถทำได้โดยโทรไปยังหมายเลข 112

ข้อมูลนำมาจากหนังสือ “คู่มือคนไทยในสวีเดน” จัดทำโดยสถานเอกอัคราชฑูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม

เด็กที่ถูกทำร้าย ไม่ว่าจะเป็นการถูกทำร้ายทางร่างกายหรือจิตใจจะต้องได้รับความช่วยเหลือ หรือแม้กระทั่งบุคคลอื่นในครอบครัวก็ต้องได้รับความช่วยเหลือด้วยเช่นกัน หากสงสัยว่ามีการทำร้ายร่างกายเด็กเกิดขึ้นในครอบครัวของเด็ก ควรแจ้งให้สำนักงานสังคมได้รับทราบ และผู้ที่ได้รับรู้จากการปฏิบัติหน้าที่ของตน เช่น แพทย์ พยาบาล ตำรวจ ครูมีหน้าที่ต้องแจ้งให้ศูนย์อนามัยเด็ก (Barnavårdscentral) ศูนย์จิตเวชเด็กและเยาวชน(Psykiska Barn- och ungdomsvården – PBU) พยาบาลประจำโรงเรียน(skolsköterska) หรือพยาบาลประจำเขต (distriktssköterska) ได้รับทราบ หรือแจ้งไปที่ตำรวจ หรือ องค์การสิทธิเด็กในสังคม (Barnens rätt i samhället -BRIS)

ข้อมูลนำมาจากหนังสือ “คู่มือคนไทยในสวีเดน” จัดทำโดยสถานเอกอัคราชฑูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม

การรักษาที่โรงพยาบาล
เมื่อโรงพยาบาลรับตัวคนไข้เข้ารักษาในโรงพยาบาล (Slutvård) คนไข้ผู้นั้นก็จะ เป็น “คนไข้ภายใน” ที่จะได้รับการรักษาพยาบาลที่อยู่ในความดูแลของสภามณฑล

ค่าใช้จ่ายในการอยู่โรงพยาบาลตามปกติ (ค่าใช้จ่ายนี้เราต้องจ่ายเอง)

  • อายุต่ำกว่า 20 ปีไม่เสียค่าใช้จ่าย
  • อายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป 100 สวีดิชโครนต่อวัน

นอกเหนือไปจากนี้แล้วคนไข้ก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรอีก โรงพยาบาลจะส่งใบเรียกเก็บเงินที่บ้าน หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว

ผู้มีครรภ์ที่ต้องการทำแท้ง ควรติดต่อกับพยาบาลผดุงครรภ์/ศูนย์สุขภาพมารดาคลินิกวัยรุ่น หรือแผนกสตรีที่โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด และหลังจากที่หารือกันแล้วและถ้า
ยังต้องการทำแท้ง ก็จะทำให้ ถ้าครรภ์ยังไม่ถึง 18 สัปดาห์ แต่ถ้ามีครรภ์แก่กว่า 18 สัปดาห์ ก็จะต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการสังคมก่อน โดยจะต้องมีเหตุผลพอเพียงและการมีครรภ์จะต้องไม่เกินสัปดาห์ที่ 20

ข้อมูลนำมาจากหนังสือ “คู่มือคนไทยในสวีเดน” จัดทำโดยสถานเอกอัคราชฑูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม

ผู้มีอายุครบ 25 ปี และมีสัญชาติสวีเดนหรือพักอาศัยอยู่ในสวีเดนสามารถขอทำหมันได้ ก่อนที่จะมีการทำหมันเจ้าหน้าที่ผู้ให้คแนะนำ แพทย์ หรือพยาบาลผดุงครรภ์จะต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลของการทำหมัน การให้คำปรึกษาเรื่องการทำหมันจะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่การทำหมันผู้ต้องการทำจะต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง

การทำหมันสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 18 ปี ถึง 25 ปี จะต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการสังคม ซึ่งจะอนุญาตให้ก็ต่อเมื่อมีเหตุผลทางพันธุกรรมเท่านั้น และถ้าเป็นผู้หญิงก็ต้องมีเหตุผลทางด้านการแพทย์เท่านั้น

ข้อมูลนำมาจากหนังสือ “คู่มือคนไทยในสวีเดน” จัดทำโดยสถานเอกอัคราชฑูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม

การตรวจสอบว่าตั้งครรภ์หรือไม่ สามารถทำได้หลังจากที่ระดูไม่มาตามกำหนดประมาณ 10 ถึง 12 วัน การตรวจสอบนี้ทำโดยการตรวจปัสสาวะที่คลินิกพยาบาลผดุงครรภ์ ศูนย์สุขภาพมารดา และคลินิกวัยรุ่น หรือจะซื้ออุปกรณ์การตรวจมาตรวจเองที่บ้านก็ได้

นอกจากการตรวจสอบเรื่องการมีครรภ์แล้ว คลินิกพยาบาลผดุงครรภ์/ศูนย์สุขภาพมารดายังติดตามดูแลการตั้งครรภ์ไปตลอดจนคลอด พร้อมทั้งให้ความรู้ต่อผู้เป็น
บิดามารดา แนะนำเรื่องการคุมกำเนิด ตรวจสอบสุขภาพมารดา และการทำแท้ง บริการต่างๆ เหล่านี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ข้อมูลนำมาจากหนังสือ “คู่มือคนไทยในสวีเดน” จัดทำโดยสถานเอกอัคราชฑูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม

วัคซีนสำหรับเด็ก
เด็กทุกคนที่อยู่ในสวีเดน มีสิทธิได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคร้ายแรง 9 ชนิด คือ โรคคอตีบ (Difteri) บาดทะยัก (Stelkramp) ไอกรน (Kikhosta) โปลิโอ
(Polio) หัด (Mässling) คางทูม (Påssjuka) หัดเยอรมัน (Röda hund) บักเตเรีย Hib (Hib-infektion) บักเตเรีย Pneumokock (Pneumokockinfektion)

วัคซีนสำหรับผู้ใหญ่
สตรีมีครรภ์จะได้รับการตรวจที่ศูนย์อนามัยมารดาว่ามีภูมิต้านทานโรคหัดเยอรมันหรือไม่ ผู้ที่ไม่มีภูมิต้านทาน หรือมีไม่พอจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคนี้ โปรแกรมวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอได้ยกเลิกไปแล้ว แต่สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดให้ครบก็สามารถไปรับการฉีดวัคซีนนี้ได้จากศูนย์อนามัย (vårdcentraler) เมื่อเกิดโรคระบาดคณะกรรมการสังคมจะประกาศทางสื่อมวลชนสำหรับเรื่องบริการวัคซีนที่จำเป็น

วัคซีนเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ
การฉีดวัคซีนก่อนเดินทางไปต่างประเทศนั้น ขึ้นอยู่กับประเทศ และระยะเวลาการพักอาศัยในประเทศนั้น ๆ ผู้เดินทางสามารถขอรายละเอียดได้จากคลินิกที่ให้บริการฉีด
วัคซีน เกี่ยวกับชนิดวัคซีนที่จำเป็น โดยผู้รับวัคซีนจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง

ข้อมูลอื่น ๆ

ข้อมูลนำมาจากหนังสือ “คู่มือคนไทยในสวีเดน” จัดทำโดยสถานเอกอัคราชฑูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม

การตรวจสุขภาพประจำปี

สวีเดนมีสวัสดิการตรวจสุขภาพประจำปีฟรีตามช่วงอายุ เราสามารถขอรับบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

  • ตรวจมะเร็งเต้านม ช่วงอายุ 40 – 74 ปี
  • ตรวจสุขภาพ อายุ 40 ปี
  • ตรวจมะเร็งปากมดลูก ช่วงอายุ 23 – 60 ปี ตรวจทุก ๆ 3 ปี ซึ่งจะมีจดหมายเรียกให้ไปตรวจได้ที่ศูนย์อนามัย
  • สำหรับผู้ชายที่มีอายุครบ 65 ปี สามารถขอทำอัลตราซาวด์เพื่อตรวจผนังหลอดเลือด แต่มีค่าใช้จ่าย 200 สวีดิชโครน
การรักษาดูแลฟัน

บริการเรื่องการดูแลรักษาฟันจะอยู่ในความดูแลของสภามณฑลโดยผ่านระบบการดูแลฟันของประชาชน (Folktandvården) และทันตแพทย์ของเอกชน สภามณฑลจะรับผิดชอบเฉพาะการทำฟันที่เป็นเหตุเนื่องมาจากการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเท่านั้นนอกนั้นอยู่ในความดูแลของเทศบาล

เด็กและวัยรุ่นมีสิทธิได้รับการดูแลรักษาฟัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายไปจนถึงปีที่มีอายุครบ 23 ปีและเมื่ออายุครบ 24 ปีแล้วจะต้องออกค่าใช้จ่ายในการทำฟันเองทั้งหมด 

ทราบหรือไม่ว่า เราสามารถเลือกหมอฟันเองได้และเลือกสถานที่ที่จะไปทำฟันได้ หากเราต้องการขอเงินช่วยเหลือเพื่อการรักษาฟันจากรัฐ อย่าลืมเช็คว่าร้านหมอฟันที่เราจะไปได้ลงทะเบียนไว้กับกองทุนประกันสังคม (Försäkringskassan)

วัตถุประสงค์เพื่อให้ใช้สำหรับการตรวจและการป้องกัน กองทุนประกันสังคมจะเป็นผู้รับผิดชอบ และจะส่งเงินให้กับทันตแพทย์ หรือผู้ดูแลสุขภาพฟัน (tandhygienist)
โดยตรง คนไข้ไม่ต้องยื่นขอและจำนวนเงินช่วยเหลือนี้จะมีมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับอายุ

ตั้งแต่อายุ 24 ปีขึ้นเราจะได้รับเงินช่วยเหลือสำหรับทำฟัน

24 ปี – 29 ปี เงินช่วยเหลือเพื่อการรักษาฟันได้รับ 600 โครนาสวีเดนต่อปี
30 ปี – 64 ปี เงินช่วยเหลือเพื่อการรักษาฟันได้รับ 300 โครนาสวีเดนต่อปี
65 ปี เป็นต้นไป เงินช่วยเหลือเพื่อการรักษาฟันได้รับ 600 โครนาสวีเดนต่อปี

คนไข้จะจ่ายค่ารักษาฟันเองไม่เกินปีละ 3 000 โครนาสวีเดน ส่วนที่เกินนั้นกองทุนประกันสังคมจะเป็นผู้จ่ายส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคนไข้ต้องจ่ายเอง ค่ารักษาฟันที่นำมาใช้คำนวณคือราคาค่ารักษาฟันที่เรียกว่า “ราคาอ้างอิง (referenspris) ที่รัฐเป็นผู้กำหนดไม่ใช่ราคาของทันตแพทย์สัดส่วนที่กองทุนประกันสังคมจะจ่ายให้มีดังนี้

  • 50 % ของค่ารักษาที่ใช้ราคาอ้างอิงในจำนวนตั้งแต่ 3 000 ถึง 15 000 โครนาสวีเดน
  • 85 % ของค่ารักษาที่ใช้ราคาอ้างอิงในจำนวนตั้งแต่ 15 000 โครนาสวีเดนขึ้นไป
รักษาใจ (สุขภาพจิต)

หากเราพบว่าเรามีอาการหดหู่ เครียด วิตกกังวล ซึมเศร้าเป็นเวลามากกว่าสองอาทิตย์จนทำให้มีผลเสียกับการใช้ชีวิตประจำวัน เราสามารถโทรไปที่ศูนย์อนามัยหรือสถานพยาบาล (Vårdcentralen) เพื่อจองเวลาพูดคุยกับนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ได้

หรือต้องการคำปรึกษาและคำแนะนำโทรไปที่ 1177 ได้ตลอดชั่วโมง

ทราบหรือไม่

ยินดีต้อนรับสู่โครงการส่งเสริมศักยภาพสตรีไทยในสวีเดน

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อทำให้คุณพบกับความแตกต่างจากผู้ใช้อื่น ๆ ของเว็บไซต์ของเรา ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เราสามารถส่งมอบประสบการณ์ ที่ดีเมื่อคุณติดตามเนื้อหาในเว็บไซต์ของเราและยังช่วยให้เราในการปรับปรุงเว็บไซต์ของเราอย่างต่อเนื่อง เมื่อคุณใช้งานเว็บไซต์ของเรา ถือว่าคุณได้ยินยอมให้เราใช้คุกกี้